สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ดันงาน “Bangkok Gift & Premium Fair เป็นงานมหกรรมสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมียมครั้งแรกในไทย พร้อมชูตลาดพรีเมียมในประเทศหมื่นล้านสวนกระแสวิกฤติชะลอตัว
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน ได้เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของงานว่า เหตุผลที่ทางสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ต้องลุกขึ้นมาจัดงาน Gift & Premium Fair นี้ เนื่องจากเวทีการส่งออกนั้นได้ร่วมกับอีก 6 สมาคมฯ ได้ดำเนินการจัดงาน BIG&BIH ไปแล้ว ซึ่งมีมูลค่าในการส่งออกรวมกันถึง 62,000 ล้านบาท แต่ตลาดในประเทศมีมูลค่าถึง 10,000 ล้านบาท จึงหาเจ้าภาพในการรวมผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจภายในประเทศไม่ได้ จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมภายในประเทศเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขาย ตัวแทนสินค้า ผู้จัดจำหน่ายได้พบกัน โดยงานนี้เน้นการเจรจาการค้าและสินค้าจะเป็นการสร้างการรับรู้โดยอัตโนมัติว่า ถ้าคุณมางานแฟร์นี้ สามารถที่จะทำโลโก้ตราสัญลักษณ์บนสินค้าได้ ทำสีของโลโก้ได้มากกว่า 1 สี จำนวนการสั่ง 300-500 ชิ้นได้ และที่สำคัญยังทำได้ในเวลาอันสั้น พร้อมจัดส่งได้ตรงต่อเวลาจึงเสมือน เป็นการรวมเอาผู้ประกอบการจากหลากหลายผลิตภัณฑ์มาไว้ในงานนี้
นายจิรบูลย์ วิเคราะห์ภาพรวมของตลาดทั้งหมดให้เห็นโดยละเอียดว่ามีมูลค่าตลาดประมาณ 10,000 ล้าน โดยใช้มาตรฐานของ The Promotional Products Association International (PPAI) มารับรอง “ สำหรับตลาดของขวัญจะครอบคลุมไปถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลุ่มเสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่มต่าง ๆ ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ทำ “โปรโมชั่นแนล กิ๊ฟ” (Promotional Gift) หรือของขวัญเพื่อส่งเสริมการขายจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด เฉพาะตรงนี้ก็ประมาณ 3,000 ล้านบาทแล้ว”
ตลาดของขวัญนั้นใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็น “ซีซันแนล กิ๊ฟ” (Seasonal Gift) หรือของขวัญตามเทศกาลและฤดูกาล , “บิซิเนส กิ๊ฟ” หรือของขวัญในเชิงธุรกิจ ทั้งหมดจะอยู่ในตัว P ที่ 4 ของการตลาด คือ พี –โปรโมชั่น (Promotion) เพื่อส่งเสริมการขาย ทีนี้ย้อนกลับมาที่กลุ่มสินค้าที่นำเข้ามาอีก ซึ่งมาจากต่างประเทศ มีตัวเลขที่นำสินค้าของขวัญเข้ามาจากต่างประเทศคือ จีนและฮ่องกง มีตัวเลขมาประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมาในราคาต้นทุน เพราะฉะนั้น เงินหมุนในตลาดจะสูงขึ้นเมื่อบวกมูลค่าเพิ่มเข้าไปด้วย
นายจิรบูลย์ กล่าวต่อ การที่ทางสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ได้เล็งเห็นถึง “Promotional Product Industry” สามารถที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งจะเดินหน้ารุกตลาดก่อนมีการเปิดเขตการค้าเสรี(FTA)ของกลุ่มประเทศสมาชิกประเทศอาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการพร้อมเตรียมการรับมือในการเปิดเขตการค้าเสรี โดยการรณรงค์สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ โดย จะเห็นได้ชัดเจน จากประเทศสิงค์โปร์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีจุดแข็งในเรื่องของกลยุทธ์ และเทคโนโลยี การผลิต แต่ประเทศไทยจะต้องมีการตั้งรับในด้านของการ ดุลอำนาจระหว่าง 2 ประเทศ โดยให้กลับมาเป็นคู่ค้าที่ดี และส่งผลดีให้กับประเทศไทยในเรื่องของการปกป้องสินค้าเนื่องด้วยประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ สามารถจะค้าขายกับประเทศสมาชิกอาเซียน ประชากรประมาณ 570 ล้านคน เกิดเป็นอุตสาหกรรมใหญ่สร้างรายได้ให้กับประเทศ ดังนั้นงานแฟร์ครั้งนี้กิจกรรมสำคัญในงาน คือ การให้ความรู้กับผู้ประกอบการ โดยมีการจัดสัมมนา (Workshop) ก่อนวันจัดงานแฟร์ ทางสมาคมฯได้เรียนเชิญ นายกสมาคมกิ๊ฟแอนด์พรีเมียม ประเทศมาเลเซีย และ ประเทศสิงค์โปร์ มาให้ความรู้เชิงวิชาการและทิศทางการตลาด แนวโน้มที่จะเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจพร้อมการเป็นคู่ค้าที่ดีต่อกันระหว่าง 3 ประเทศ
“งานนี้เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพของ “Promotional Product Industry” พร้อมรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันอุตสาหกรรมนี้อย่างจริงจัง
พร้อมกันนั้นแล้วงาน Bangkok Gift & Premium Fair จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม (Gift & Premium) ให้เป็นที่ยอมรับและเป็นศูนย์รวมของการเลือกหาสินค้าพรีเมี่ยม พร้อมทั้งเป็นงานที่รวมผู้ประกอบการสินค้าพรีเมี่ยมชั้นแนวหน้าในทุกกลุ่มสินค้า ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมแบรนด์ดัง และธุรกิจสิ่งพิมพ์งานกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม อาทิเช่น อุปกรณ์การพิมพ์ เทคโนโลยีการพิมพ์สินค้าพรีเมี่ยมที่ทันสมัย เลเซอร์มาร์ค เครื่องจักรปักโลโก้ ครอบคลุมทุกประเภทสินค้าทุกหมวดหมู่ อาทิเช่น
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเย็บ , ยูนิฟอร์ม
- อุปกรณ์เครื่องเขียน และเครื่องใช้ในสำนักงาน
- ประเภทสิ่งพิมพ์
- อุปกรณ์ส่งเสริมการขาย
- อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- เครื่องหนัง เครื่องประดับ
- Display อุปกรณ์โปรโมชั่น
- ดิจิตอลปริ๊น ดิจิตอลคอนเทรน
- บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์
- กราฟฟิกดีไซน์
- อุปกรณ์ที่ใช้ในโรงแรม
- ถุงพลาสติก ถุงผ้า Gift Set
- งานโลหะ
- อุปกรณ์กีฬาทุกชนิด
- ตัวแทนสินค้าพรีเมี่ยมแบรนด์ดังจากต่างประเทศ
*** ภายในงานกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมครั้งสำคัญของประเทศไทย จะได้พบกับผู้ผลิต/
ตัวแทนจำหน่ายจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน อาทิ ประเทศสิงค์โปร์ , ประเทศมาเลเซีย และประเทศฮองกง ซึ่งได้ตอบรับเข้าร่วมงานโดยจะนำผลิตภัณฑ์สินค้ากิฟท์แอนด์พรีเมี่ยมดีไซน์แบบใหม่ ๆ มาจัดแสดงไม่ต่ำกว่า 30 บริษัท ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และแนวโน้ม (Trend) ของสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม
งานที่ผู้ประกอบการไทยและผู้ซื้อไม่ควรพลาด !
และที่สำคัญ งานนี้ท่านจะได้พบกับบริษัทชั้นนำในเมืองไทย , สถาบันการเงิน,หน่วยงานภาครัฐ , กระทรวง , โรงเรียน , มหาวิทยาลัย , องค์กรปกครองส่วนจังหวัด , ท้องถิ่น , ห้างสรรพสินค้า , โรงแรม , เอเจอซี่ , ออไนเซอร์ , เว็ดดิ่ง ฯลฯ มากกว่า 10,000 องค์กร เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับกลุ่มผู้ซื้อโดยตรง
Highlight
ภายในงาน ท่านจะได้พบกับกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิเช่น
- International Street กลุ่มสินค้าดีไซน์ มากกว่า 30 บริษัท จากประเทศสิงค์โปร์ มาเลเซีย , และประเทศฮองกง
- พร้อมกับการจัดเสวนา โดยนักจัดซื้อขององค์กรชั้นนำมาให้ความรู้ และแนะนำเลือกสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม รวมถึงแนวโน้มสินค้าปี 2009-2010 อีกด้วย
- การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม
- การประกวดออกแบบสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยมให้ตรงใจกับผู้ซื้อ
เรียกได้ว่างานครั้งนี้ คุ้มค่าสำหรับเลือกสรรสินค้าคุณภาพชั้นเยี่ยม ดีไซน์ทันสมัย กว่า 5,000 รายการ อาทิเช่น หมวก กระเป๋า ปากกา แก้วน้ำ นาฬิกา อุปกรณ์อิเล็กทอนิกส์ ฯลฯ ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
นายจิรบูลย์ เปิดเผยว่าทำไมต้องมีงาน Bangkok Gift & Premium Fair ซึ่งจะจัดในวันที่ 24–27 กันยายน 2552 ณ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ เวลา 10.00 – 20.00 น.เพราะ ในปี 2010 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนจะทำการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) ซึ่งหมายถึงการไม่มีกำแพงภาษี ทำให้เกิดการซื้อขายอย่างเสรีระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน นับเป็นโอกาสที่ดีที่ทางประเทศไทยต้องจัดงานกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมขึ้นในปีนี้ เพื่อสร้างแนวป้องกันจากประเทศพื้นบ้านที่มีมูลค่าการบริโภคสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมมากกว่า 30,000 ล้าน และในส่วนของประเทศไทยธุรกิจ (Promotional Products ) กิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมมีมูลค่าทางการตลาดถึง 10,000 ล้านบาท
แต่ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีงานแฟร์ที่รวมเอาสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมทุกประเภทมาร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าเลือกสรรอันหมายถึง กลุ่มบริษัท ห้างร้าน องค์กรต่าง ๆ อาทิบริษัทประกันชีวิต บริษัทรถยนต์ บริษัทยา บริษัทโฆษณา บริษัทจัด Event หน่วยงานต่าง ๆ อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม ฯลฯ ซึ่งจัดเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของอุตสาหกรรมกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้านได้เล็งเห็นว่า สินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมเป็นสินค้าที่ลูกค้ามีความต้องการใช้จำนวนมากในแต่ละปี และสินค้ากลุ่มนี้ก็มีความหลากหลายเพิ่มมากยิ่งขึ้น อนึ่ง สมาคมฯ คาดว่า จะสามารถเป็นศูนย์กลางของผู้ประกอบการสินค้าพรีเมี่ยม รวมถึงการแนะนำผู้ประกอบการให้กับบริษัทลูกค้าได้ด้วย โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อ
- ต้องการให้มีการจัดงานที่รวมเอาผู้ประกอบการสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมทุกประเภทเข้าไว้ด้วยกัน
- สมาคมฯ ยินดีให้ความรู้กับผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ได้เข้าใจถึงกระบวนการของสินค้า Promotional Products (กิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม) เพื่อการใช้สินค้าในการส่งเสริมการขาย หรือการทำโปรโมชั่น
- ต้องการให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงการพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
- ต้องการให้มีสินค้าที่มีคุณภาพ
ทั้งหมดล้วนเป็นที่มาของการจัดงานนี้ และผู้ซื้อพร้อมที่จะมาเลือกซื้อและเจรจาธุรกิจ รวมถึงเป็นการยกระดับผู้ประกอบการสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมไทยให้ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับตลาดสากลได้
ทั้งนี้สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ขออาสาที่จะเป็นตัวกลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้เข้มแข็ง เพื่อจะได้เป็น
ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นระหว่างผู้ประกอบการสนใจรายละเอียดในการจัดงานเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยฯ โทรศัพท์ 02 -305 8755 หรือที่ www.bangkokgiftandpremium.com
มีผลรับอย่างไรบ้าง ในการจัด Bangkok gift & Premium Fair
นายจิรบูลย์ กล่าวว่า ผลที่คาดว่าจะได้รับโดยตรง (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) คงเป็นผลกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) เกิดการตื่นตัวและพัฒนาตัวเองเพื่อพร้อมรับการแข่งขันการค้าเสรีในอนาคต
- ขยายวงธุรกิจ (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) เพียงการขายในประเทศเป็นการขายในอาเซียนผู้ประกอบการ (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) จะต้องระมัดระวัง พัฒนาตัวเองทางด้านคุณภาพ และการให้บริการมากกว่าการแข่งขันกันด้วยราคา
-เกิดการร่วมตัวของผู้ประกอบการในประเทศ โดยมีสมาคมฯเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการร่วมกลุ่มในประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม
-ฉายภาพของสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม โดดเด่นมากขึ้นต่อสาธารณชน และเป็นที่พึ่งให้กับผู้ซื้อในการเป็นศูนย์กลางในการจัดหาของที่ระลึกให้มีความหลากหลายมากขึ้นBangkok Gift & Premium Fair เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม บ่มเพาะให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับให้เข้าสู่การค้า การส่งออก จึงเป็นการเติมเต็มผู้ประกอบการสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม และยกระดับขึ้นไปในเวทีงาน BIG&BIH อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในงาน BIG&BIH 2552 จะพบเห็นกลุ่มผู้ประกอบการกิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยมที่มีศักยภาพในการส่งออกจะมีเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ขอบคุณครับ
ที่มา : คม ชัด ลึก
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน ได้เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของงานว่า เหตุผลที่ทางสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ต้องลุกขึ้นมาจัดงาน Gift & Premium Fair นี้ เนื่องจากเวทีการส่งออกนั้นได้ร่วมกับอีก 6 สมาคมฯ ได้ดำเนินการจัดงาน BIG&BIH ไปแล้ว ซึ่งมีมูลค่าในการส่งออกรวมกันถึง 62,000 ล้านบาท แต่ตลาดในประเทศมีมูลค่าถึง 10,000 ล้านบาท จึงหาเจ้าภาพในการรวมผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจภายในประเทศไม่ได้ จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมภายในประเทศเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ขาย ตัวแทนสินค้า ผู้จัดจำหน่ายได้พบกัน โดยงานนี้เน้นการเจรจาการค้าและสินค้าจะเป็นการสร้างการรับรู้โดยอัตโนมัติว่า ถ้าคุณมางานแฟร์นี้ สามารถที่จะทำโลโก้ตราสัญลักษณ์บนสินค้าได้ ทำสีของโลโก้ได้มากกว่า 1 สี จำนวนการสั่ง 300-500 ชิ้นได้ และที่สำคัญยังทำได้ในเวลาอันสั้น พร้อมจัดส่งได้ตรงต่อเวลาจึงเสมือน เป็นการรวมเอาผู้ประกอบการจากหลากหลายผลิตภัณฑ์มาไว้ในงานนี้
นายจิรบูลย์ วิเคราะห์ภาพรวมของตลาดทั้งหมดให้เห็นโดยละเอียดว่ามีมูลค่าตลาดประมาณ 10,000 ล้าน โดยใช้มาตรฐานของ The Promotional Products Association International (PPAI) มารับรอง “ สำหรับตลาดของขวัญจะครอบคลุมไปถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลุ่มเสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่มต่าง ๆ ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ทำ “โปรโมชั่นแนล กิ๊ฟ” (Promotional Gift) หรือของขวัญเพื่อส่งเสริมการขายจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด เฉพาะตรงนี้ก็ประมาณ 3,000 ล้านบาทแล้ว”
ตลาดของขวัญนั้นใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็น “ซีซันแนล กิ๊ฟ” (Seasonal Gift) หรือของขวัญตามเทศกาลและฤดูกาล , “บิซิเนส กิ๊ฟ” หรือของขวัญในเชิงธุรกิจ ทั้งหมดจะอยู่ในตัว P ที่ 4 ของการตลาด คือ พี –โปรโมชั่น (Promotion) เพื่อส่งเสริมการขาย ทีนี้ย้อนกลับมาที่กลุ่มสินค้าที่นำเข้ามาอีก ซึ่งมาจากต่างประเทศ มีตัวเลขที่นำสินค้าของขวัญเข้ามาจากต่างประเทศคือ จีนและฮ่องกง มีตัวเลขมาประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมาในราคาต้นทุน เพราะฉะนั้น เงินหมุนในตลาดจะสูงขึ้นเมื่อบวกมูลค่าเพิ่มเข้าไปด้วย
นายจิรบูลย์ กล่าวต่อ การที่ทางสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ได้เล็งเห็นถึง “Promotional Product Industry” สามารถที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งจะเดินหน้ารุกตลาดก่อนมีการเปิดเขตการค้าเสรี(FTA)ของกลุ่มประเทศสมาชิกประเทศอาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการพร้อมเตรียมการรับมือในการเปิดเขตการค้าเสรี โดยการรณรงค์สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ โดย จะเห็นได้ชัดเจน จากประเทศสิงค์โปร์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีจุดแข็งในเรื่องของกลยุทธ์ และเทคโนโลยี การผลิต แต่ประเทศไทยจะต้องมีการตั้งรับในด้านของการ ดุลอำนาจระหว่าง 2 ประเทศ โดยให้กลับมาเป็นคู่ค้าที่ดี และส่งผลดีให้กับประเทศไทยในเรื่องของการปกป้องสินค้าเนื่องด้วยประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ สามารถจะค้าขายกับประเทศสมาชิกอาเซียน ประชากรประมาณ 570 ล้านคน เกิดเป็นอุตสาหกรรมใหญ่สร้างรายได้ให้กับประเทศ ดังนั้นงานแฟร์ครั้งนี้กิจกรรมสำคัญในงาน คือ การให้ความรู้กับผู้ประกอบการ โดยมีการจัดสัมมนา (Workshop) ก่อนวันจัดงานแฟร์ ทางสมาคมฯได้เรียนเชิญ นายกสมาคมกิ๊ฟแอนด์พรีเมียม ประเทศมาเลเซีย และ ประเทศสิงค์โปร์ มาให้ความรู้เชิงวิชาการและทิศทางการตลาด แนวโน้มที่จะเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจพร้อมการเป็นคู่ค้าที่ดีต่อกันระหว่าง 3 ประเทศ
“งานนี้เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพของ “Promotional Product Industry” พร้อมรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันอุตสาหกรรมนี้อย่างจริงจัง
พร้อมกันนั้นแล้วงาน Bangkok Gift & Premium Fair จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม (Gift & Premium) ให้เป็นที่ยอมรับและเป็นศูนย์รวมของการเลือกหาสินค้าพรีเมี่ยม พร้อมทั้งเป็นงานที่รวมผู้ประกอบการสินค้าพรีเมี่ยมชั้นแนวหน้าในทุกกลุ่มสินค้า ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมแบรนด์ดัง และธุรกิจสิ่งพิมพ์งานกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม อาทิเช่น อุปกรณ์การพิมพ์ เทคโนโลยีการพิมพ์สินค้าพรีเมี่ยมที่ทันสมัย เลเซอร์มาร์ค เครื่องจักรปักโลโก้ ครอบคลุมทุกประเภทสินค้าทุกหมวดหมู่ อาทิเช่น
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเย็บ , ยูนิฟอร์ม
- อุปกรณ์เครื่องเขียน และเครื่องใช้ในสำนักงาน
- ประเภทสิ่งพิมพ์
- อุปกรณ์ส่งเสริมการขาย
- อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
- เครื่องหนัง เครื่องประดับ
- Display อุปกรณ์โปรโมชั่น
- ดิจิตอลปริ๊น ดิจิตอลคอนเทรน
- บริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์
- กราฟฟิกดีไซน์
- อุปกรณ์ที่ใช้ในโรงแรม
- ถุงพลาสติก ถุงผ้า Gift Set
- งานโลหะ
- อุปกรณ์กีฬาทุกชนิด
- ตัวแทนสินค้าพรีเมี่ยมแบรนด์ดังจากต่างประเทศ
*** ภายในงานกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมครั้งสำคัญของประเทศไทย จะได้พบกับผู้ผลิต/
ตัวแทนจำหน่ายจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน อาทิ ประเทศสิงค์โปร์ , ประเทศมาเลเซีย และประเทศฮองกง ซึ่งได้ตอบรับเข้าร่วมงานโดยจะนำผลิตภัณฑ์สินค้ากิฟท์แอนด์พรีเมี่ยมดีไซน์แบบใหม่ ๆ มาจัดแสดงไม่ต่ำกว่า 30 บริษัท ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และแนวโน้ม (Trend) ของสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม
งานที่ผู้ประกอบการไทยและผู้ซื้อไม่ควรพลาด !
และที่สำคัญ งานนี้ท่านจะได้พบกับบริษัทชั้นนำในเมืองไทย , สถาบันการเงิน,หน่วยงานภาครัฐ , กระทรวง , โรงเรียน , มหาวิทยาลัย , องค์กรปกครองส่วนจังหวัด , ท้องถิ่น , ห้างสรรพสินค้า , โรงแรม , เอเจอซี่ , ออไนเซอร์ , เว็ดดิ่ง ฯลฯ มากกว่า 10,000 องค์กร เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับกลุ่มผู้ซื้อโดยตรง
Highlight
ภายในงาน ท่านจะได้พบกับกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิเช่น
- International Street กลุ่มสินค้าดีไซน์ มากกว่า 30 บริษัท จากประเทศสิงค์โปร์ มาเลเซีย , และประเทศฮองกง
- พร้อมกับการจัดเสวนา โดยนักจัดซื้อขององค์กรชั้นนำมาให้ความรู้ และแนะนำเลือกสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม รวมถึงแนวโน้มสินค้าปี 2009-2010 อีกด้วย
- การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม
- การประกวดออกแบบสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยมให้ตรงใจกับผู้ซื้อ
เรียกได้ว่างานครั้งนี้ คุ้มค่าสำหรับเลือกสรรสินค้าคุณภาพชั้นเยี่ยม ดีไซน์ทันสมัย กว่า 5,000 รายการ อาทิเช่น หมวก กระเป๋า ปากกา แก้วน้ำ นาฬิกา อุปกรณ์อิเล็กทอนิกส์ ฯลฯ ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
นายจิรบูลย์ เปิดเผยว่าทำไมต้องมีงาน Bangkok Gift & Premium Fair ซึ่งจะจัดในวันที่ 24–27 กันยายน 2552 ณ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ เวลา 10.00 – 20.00 น.เพราะ ในปี 2010 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนจะทำการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) ซึ่งหมายถึงการไม่มีกำแพงภาษี ทำให้เกิดการซื้อขายอย่างเสรีระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน นับเป็นโอกาสที่ดีที่ทางประเทศไทยต้องจัดงานกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมขึ้นในปีนี้ เพื่อสร้างแนวป้องกันจากประเทศพื้นบ้านที่มีมูลค่าการบริโภคสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมมากกว่า 30,000 ล้าน และในส่วนของประเทศไทยธุรกิจ (Promotional Products ) กิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมมีมูลค่าทางการตลาดถึง 10,000 ล้านบาท
แต่ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีงานแฟร์ที่รวมเอาสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมทุกประเภทมาร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าเลือกสรรอันหมายถึง กลุ่มบริษัท ห้างร้าน องค์กรต่าง ๆ อาทิบริษัทประกันชีวิต บริษัทรถยนต์ บริษัทยา บริษัทโฆษณา บริษัทจัด Event หน่วยงานต่าง ๆ อาทิ โรงเรียน มหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โรงแรม ฯลฯ ซึ่งจัดเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของอุตสาหกรรมกิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้านได้เล็งเห็นว่า สินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมเป็นสินค้าที่ลูกค้ามีความต้องการใช้จำนวนมากในแต่ละปี และสินค้ากลุ่มนี้ก็มีความหลากหลายเพิ่มมากยิ่งขึ้น อนึ่ง สมาคมฯ คาดว่า จะสามารถเป็นศูนย์กลางของผู้ประกอบการสินค้าพรีเมี่ยม รวมถึงการแนะนำผู้ประกอบการให้กับบริษัทลูกค้าได้ด้วย โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อ
- ต้องการให้มีการจัดงานที่รวมเอาผู้ประกอบการสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมทุกประเภทเข้าไว้ด้วยกัน
- สมาคมฯ ยินดีให้ความรู้กับผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ได้เข้าใจถึงกระบวนการของสินค้า Promotional Products (กิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยม) เพื่อการใช้สินค้าในการส่งเสริมการขาย หรือการทำโปรโมชั่น
- ต้องการให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงการพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
- ต้องการให้มีสินค้าที่มีคุณภาพ
ทั้งหมดล้วนเป็นที่มาของการจัดงานนี้ และผู้ซื้อพร้อมที่จะมาเลือกซื้อและเจรจาธุรกิจ รวมถึงเป็นการยกระดับผู้ประกอบการสินค้ากิ๊ฟท์แอนด์พรีเมี่ยมไทยให้ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับตลาดสากลได้
ทั้งนี้สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน ขออาสาที่จะเป็นตัวกลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้เข้มแข็ง เพื่อจะได้เป็น
ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นระหว่างผู้ประกอบการสนใจรายละเอียดในการจัดงานเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยฯ โทรศัพท์ 02 -305 8755 หรือที่ www.bangkokgiftandpremium.com
มีผลรับอย่างไรบ้าง ในการจัด Bangkok gift & Premium Fair
นายจิรบูลย์ กล่าวว่า ผลที่คาดว่าจะได้รับโดยตรง (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) คงเป็นผลกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) เกิดการตื่นตัวและพัฒนาตัวเองเพื่อพร้อมรับการแข่งขันการค้าเสรีในอนาคต
- ขยายวงธุรกิจ (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) เพียงการขายในประเทศเป็นการขายในอาเซียนผู้ประกอบการ (กิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม) จะต้องระมัดระวัง พัฒนาตัวเองทางด้านคุณภาพ และการให้บริการมากกว่าการแข่งขันกันด้วยราคา
-เกิดการร่วมตัวของผู้ประกอบการในประเทศ โดยมีสมาคมฯเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการร่วมกลุ่มในประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม
-ฉายภาพของสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม โดดเด่นมากขึ้นต่อสาธารณชน และเป็นที่พึ่งให้กับผู้ซื้อในการเป็นศูนย์กลางในการจัดหาของที่ระลึกให้มีความหลากหลายมากขึ้นBangkok Gift & Premium Fair เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม บ่มเพาะให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อยกระดับให้เข้าสู่การค้า การส่งออก จึงเป็นการเติมเต็มผู้ประกอบการสินค้ากิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยม และยกระดับขึ้นไปในเวทีงาน BIG&BIH อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในงาน BIG&BIH 2552 จะพบเห็นกลุ่มผู้ประกอบการกิ๊ฟแอนด์พรีเมี่ยมที่มีศักยภาพในการส่งออกจะมีเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ขอบคุณครับ
ที่มา : คม ชัด ลึก
